Translate

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ลาบหนวดปลาหมึก

ส่วนผสม 1.หนวดหมึก 500 กรัม 2.น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 5.พริกป่น 2 ช้อนชา (ชอบเผ็ดมากน้อย เพิ่ม-ลด ได้นะคะ) 6.ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 7.หอมแดงซอย 2-3 หัว 8.ต้นหอมซอย 1 ต้น 9.ผักชีซอย 1ต้น 10.ผักชีฝรั่งซอ 1 ต้น 11.ใบสะระแหน่ ไว้สำหรับตกแต่ง ป.ล. ส่วนผสมและวิธีทำ ที่ให้ไว้เป็นของจานนี้นะคะ ใครชอบรสชาติไหน ปรุงเพิ่ม-ลด ได้ตามชอบเลยค่ะ วิธีทำ 1.ตั้งน้ำให้เดือด แล้วเอาหนวดหมึกลงไปลวก ลวกแค่พอสุกนะคะ เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ เวลาเคี้ยวจะได้กรุบๆ 2.เตรียมน้ำลาบ โดยผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลทรายละลายหมด จากนั้นใส่หอมแดงซอย ข้าวคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีซอย และผักชีฝรั่งซอยลงไป คนให้เข้ากัน แล้วลองชิมรสชาติดูนะคะ ขาดเหลือรสชาติไหน ปรุงเพิ่ม-ลดได้นะคะ จากนั้นใส่หนวดหมึกที่ลวกไว้ลงไป คนให้เข้ากัน 3.จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ลาบหนวดหมึก

ผัดหมี่ฃั่ว

ผัดหมี่ซั่ว กับเทคนิคผัดเส้นหมี่ให้เส้นนุ่มเนื้อแน่นและเส้นไม่ขาด ส่วนประกอบและวิธีทำ ผัดหมี่ซั่ว - หมี่ซั่ว 1/2 กิโลกรัมนำไปลวกก่อน เสร็จแล้วนำไปนึ่งต่ออีก 15 นาที ยกลงจากเตา นำเส้นหมี่ที่สุกดีแล้วนำมาคลุกด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อไม่ให้เส้นจับเป็นก้อน - เตรียมเนื้อหมูหั่นเป็นเส้น 1 ขีด , หมึกหอมหั่นเป็นเส้น 1 ขีด , กุ้ง 10 ตัว , คื้นช่าย 1 ช้อนโต๊ะ , ต้นหอม 1 ช้อนโต๊ะ , ใบกุยช่าย 1 ถ้วยตวง , ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง , น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ , ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ , น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ , กระเทียมสับ 3 กลีบ , พริกขี้หนูทุบแล้วสับ 2 เม็ด , น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำ 1/2 ถ้วยตวง - น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ใส่กระทะตั้งไฟก่อน ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงผัดให้หอมก่อน แล้วใส่น้ำมันหอยลงไปผัดจนหอมดีแล้วใส่เนื้อหมู กุ้งและหมึกลงไปผัดจนสุก ใส่น้ำมันพืชเพิ่มลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำซุปลงไป รอให้เดือดก่อน จากนั้นค่อยปรุงรส ได้ที่ดีแล้วใส่เส้นหมี่ซั่วลงไป ผัดเร็วๆ โดยวิธีเขย่ากระทะ เทคนิคการทำ ผัดหมี่ซั่ว - เส้นหมี่ซั่ว ต้องลวกก่อนเพื่อให้เนื้อเส้นหมี่สุกนิ่ม จากนั้นการนำไปนึ่งเพื่อให้เส้นหมี่เนื้อแน่นขึ้น เวลานำไปผัดเส้นจะไม่ค่อยขาด การคลุกเส้นหมี่ด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวเพื่อไม่ให้เส้นจับเป็นก้อน - การผัดเส้นหมี่จะใช้วิธีเขย่ากระทะเร็วๆ ถ้าใช้ตะหลิวเส้นหมี่จะขาด Cr. สูตรอาหาร Cr. ภาพอาหาร Internet

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

ไข่ตุ๋นนมสด

วันนี้เอาไข่ตุ๋นนมสด อร่อยแบบเบาๆ มาฝากกันนะค่ะ เมนูนี้ทำง่าย ลองทำกันดูนะคะ ส่วนผสม 1.ไข่ไก่ 5 ฟอง 2.นมสด 2 1/2 ถ้วยตวง 3.กุ้งสด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3-4 ตัว 4.กุ้งสด ปอกเปลือกไว้หาง ผ่าหลังลึก แต่ไม่ทะลุนะคะ 8 ตัว 5.ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนชา 6.เกลือป่น 1 ช้อนชา 7.แครอทหั่น 1/2 หัว 8.ใบต้นหอมซอย 2-3 ใบ 9.มันกุ้ง สำเร็จรูป 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มี รีดออกจากหัวกุ้งเลยนะคะ) ป.ล.1 กรณีทำน้อย ไข่ไก่เบอร์ 0 2ฟอง/นมสด 1ถ้วยตวง/ซีอิ๊วขาว 2ช้อนชา/เกลือ 1/2 ช้อนชา (ไม่เต็มช้อน) ตามนี้ค่ะ ป.ล.2 แพ้กุ้ง เปลี่ยนเป็นหมู / ไก่ ได้นะคะ ป.ล.3 ส่วนผสมที่ให้ไว้เป็นของไข่ตุ๋นนมสดชามนี้นะคะ ใครอยากได้รสอ่อนหรือเข้มกว่านี้ก็ปรับลด-ปรับเพิ่มเครื่องปรุงเอาตามความชอบเลยค่ะ วิธีทำ 1.ตอกไข่ใส่ชาม คนด้วยตะเกียบ แล้วใส่นมสดลงไป คนให้เข้ากัน แล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และเกลือ คนให้เข้ากัน (ตรงนี้ใครจะกรองก็ได้นะคะ กรอง 1-2 รอบ เนื้อจะได้เนียนๆ) แต่วันนี้ไม่ได้กรองนะคะ 2.ใส่กุ้งสับและแครอทลงไป คนให้เข้ากัน ช้อนฟองด้านหน้าออกให้หมดด้วยนะคะ แล้วพักไว้ 3.ตั้งน้ำให้เดือด แล้วเอาไข่ลงไปตุ๋น รอให้หน้าไข่ตึงๆ ตอนนึ่งแง้มฝาไว้เล็กน้อยด้วยนะคะ 4.ใส่มันกุ้งลงไปตรงกลาง แล้วเบาไฟลงนะคะ จากนั้นปิดฝา แล้วตุ๋นต่อไป ลองเช็คไข่ด้วยไม้ปลายแหลม จิ้มไม้ลงไปให้ถึงก้นถ้วยเลยนะคะ สังเกตุถ้ามีไข่ติดไม้มาเล็กน้อย คือใกล้สุกแล้ว ให้วางกุ้งที่เราเตรียมไว้ลงไป ปิดฝาแล้วนึ่งต่อ จนกุ้งเปลี่ยนเป็นสีส้ม แล้วโรยต้นหอมซอยลงไป ปิดฝาอีกที พอใบหอมซอยเริ่มใส ปิดแก๊สได้เลยค่ะ แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

คอหมูย่าง

สูตรหมักคอหมูย่างรสเด็ด คอ หมู ย่างให้ฉ่ำๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด น้ำลายไหล จานนี้เพิ่งจะทำสดๆ ร้อนๆ คอหมูหรืิอเนื้อสันคอ นี่ไม่ใช่อาหารธรรมดาๆ นะครับ… เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ต้องมีการจับจองล่วงหน้าโดยตรงกับเขียงหมู เพราะส่วนใหญ่พวกร้านอาหารเค้าจะมาจอง เนื้อสันคอ เอาไปทำคอหมูย่างกันล่วงหน้า และซื้อกันเป็นเจ้าประจำอยู่แล้ว คอหมูอย่างจะอร่อยสมบูรณ์แบบ ก็จะต้องไปด้วยกันกับน้ำจิ้มรสแซ่บกับสูตรการหมักคอหมูย่างอย่างพิถีพิถัน เหมือนพระเอกกับนางเองนั่นเอง สูตรหมักคอหมูย่าง 1. เนื้อสันคอ ชิ้นกลางๆ 1 ชิ้น 2. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 3. ซอสหอย (น้ำมันหอย) 2 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ 5. พริกไทย 1 ช้อนชา 6. เกลือป่น ½ ช้อนชา 7. นมข้นจืด หรือ นมสด 3 ช้อนโต๊ะ น้ำจิ้มคอหมูย่าง 1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ 2.น้ำมะขามเปียก ½ ช้อนโต๊ะ 3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ 5. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 6. ต้นหอมผักชี ตามชอบ วิธีปรุง วิธีหมักคอหมูย่าง 1. เนื้อสันคอนำมาแล่เป็นชิ้นบางๆ นำมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ขยำให้เข้ากันประมาณ 15 นาที หมักทิ้งไว้อีก 1 ช. ม. 2. มาถึงขั้นตอนการย่าง เอาคอหมูย่างมาวางบนตะแกรงย่างด้วยไฟอ่อน ถ้าใช้เตาถ่านจะหอมมากครับ ย่างจนสุกดีแล้วหั่นเป็นชิ้นบาง จัดใส่จายไว้ การทำน้ำจิ้มคอหมูย่าง 1. นำส่วนผสมน้ำจิ้มต่างๆผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 2. ใส่ผักชีต้นหอมลงไป พร้อมเสิร์ฟกับคอหมูย่าง

กุยช่ายแต้จิ๋วสูตรโบราณ

กุยช่ายแต้จิ๋วสูตรโบราณ ส่วนผสมและวิธีทำ ตัวแป้ง 1. แป้งมันสำปะหลัง 500 กรัม 2. แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม 3. น้ำเดือดจัด 3+1/2 ถ้วย 4. น้ำ 1 ถ้วย 5. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ ไส้กุยช่าย 1. กุยช่ายซอย 2 กก. 2. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา 3. เกลือสมุทร 2 ช้อนชา 4. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำมัน 3/4 ถ้วย น้ำจิ้ม 1. น้ำ 4 ถ้วย 2. เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย 4. ซีอิ๊วดำหวาน 1/2 ถ้วย 5. น้ำตาลทรายไม่ฟอก 1/2 ถ้วย 6. พริกขี้หนูสวนบดผสมน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย วิธีทำ 1. ทำน้ำจิ้มโดยผสมเครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อ เคี่ยวไฟกลางพอเดือด ปิดไฟ พักไว้จนเย็น 2. ทำไส้โดยผสมใบกุยช่าย เบกกิ้งโซดา เกลือ น้ำตาล และน้ำมัน เคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ใบกุยช่ายนุ่ม เทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ 3. ทำแป้งโดยผสมแป้งมันและแป้งข้าวเจ้ารวมกันในอ่างผสม ใส่น้ำเดือดจัดลงไป ใช้พายไม้คนให้ทั่ว พอแป้งอุ่นมือใช้มือนวดให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำทีละน้อยสลับกับน้ำมัน ใช้สันมือนวดไปเรื่อย ๆ จนแป้งเหนียวรวมกันเป็นก้อน นวดจนน้ำและน้ำมันหมดแป้งจะเป็นก้อนเหนียวและนุ่มมือ 4. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมเล็ก ใช้แป้งมันแห้งเป็นแป้งนวล แล้วบีบไล่แป้งให้เป็นแผ่นบาง ตักใส่ไส้ห่อจับจีบห่อโดยรอบและไม่มีรอยรั่ว เรียงใส่ลังถึง ถ้าไม่มีใบตองใช้ฟอยล์ทาน้ำมันรองค่ะ 5. นำไปนึ่งบนน้ำเดือดด้วยไฟกลางนานประมาณ 10 นาที ทาด้วยน้ำมันอีกครั้งเพื่อไม่ให้ติดกัน 6. จัดใส่จาน โรยกระเทียมเจียวเล็กน้อย เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม อร่อยๆๆๆ แป้งบางเหนี่ยว เคี้ยวหนุบหนับ Cr. สูตรอาหาร Internet Cr. ภาพอาหาร Internet

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559

ปีกไก่ทอดสมุนไพร

ปีกไก่ทอดสมุนไพร ปีกไก่ทอดร้อนๆ กลิ่นสมุนไพรหอมกระจาย จะทานคู่กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยดี เนี่ย??? ----------------------- ส่วนผสม ----------- 1.ปีกไก่กลาง 2.เกลือ 3.ซีอิ๊วขาว 4.พริกไทยป่น 5.แป้งทอดกรอบ 6.ข่าหั่นแว่นบางๆ 7.ตะไคร้ซอยบางๆ 8.ใบมะกรูดฉีก 9.พริกแห้ง เอาเมล็ดออก 10.หอมซอย 11.กระเทียมซอย 12.น้ำมันสำหรับทอด ---------------------------- วิธีทำ ------- 1.ล้างปีกไก่ให้สะอาด จากนั้นผ่าครึ่ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2.หมักปีกไก่ด้วย เกลือ ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น เข้าด้วยกัน พักไว้ 1 ชั่วโมง 3.ระหว่างรอปีกไก่ที่หมัก ก็เตรียมสมุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข่าตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง หอมซอย กระเทียมซอย ล้างทำความสะอาดและหั่นไว้ 4.หมักไก่ครบ 1 ชั่วโมงแล้ว ใส่แป้งทอดกรอบลงไปคลุกเคล้ากับปีกไก่ พักไว้ 10 นาที 5.ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน ใช้ไฟปานกลาง ค่อยเอาปีกไก่ลงทอด ทอดให้ปีกไก่สุก จากนั้นตักขึ้นพักไว้ 6.ใช้กระทะและน้ำมันเดิม นำสมุนไพรลงทอด เริ่มจาก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแดง ทอดให้ตะไคร้พอมีสีออกเหลืองๆ ก็เอาปีกไก่ที่ทอดไว้ ลงทอดกับสมุนไพรอีกครั้ง ทอดให้ไก่มีสีเหลืองทอง จากนั้นตักปีกไก่พร้อมด้วยสมุนไพรออกให้หมด แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 7.นำหอมกับกระเทียมที่ซอยไว้ลงเจียวในกระทะ เจียวให้มีสีเหลือง แล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ซับด้วยกระดาษซับมันอีครั้ง จากนั้นนำหอมเจียว กระเทียมเจียวไปคลุกเคล้ากับปีกไก่และสมุนไพรที่ทอดไว้ แค่นี้เราก็ได้ปีกไก่ทอดสมุนไพรแล้วค่ะ

ยำตะลิงปลิง

ตะลิงปลิงเป็นไม้ที่ออกผลทั้งปี แถมมีวิตามินซีสูง ช่วงนี้แม่ผมกำลังหาเมนูควบคุมน้ำหนัก แทนอาหารมื้อเย็น ยำตะลิงปลิงสูตรนี้เลยเหมาะสมพอดี แต่ถ้าใครไม่ชอบของเปรี้ยวจะทานยำตะลิงปลิงสูตรนี้ไม่อร่อยนะคร๊าบ ส่วนเมนูอื่นๆ ที่ใช้ตะลิงปลิงที่แม่ผมเคยทำ พวกน้ำพริกตะลิงปลิง แกงคั่วหมูตะลิงปลิง น้ำตะลิงปลิง - ตะลิงปลิง 20 ลูก - พริกขี้หนูสดซอย 7 เม็ด - หอมแดงซอย 5 หัว - กระเทียมซอย 5 กลีบ - กะปิปิ้ง 1.5 ช้อนโต๊ะ - กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ - มะพร้าวคั่ว 1/4 ถ้วย - น้ำตาลปี๊ก 2 ชต. - น้ำปลา 1 ชต. - น้ำสุก 2 ชต. - เกลือ วิธีทำ 1. ล้างตะลิงปลิง ซอยตามความยาวผลแล้วหั่นอย่าได้ติดเมล็ด แช่น้ำเกลือพักไว้สักครู่ ล้างน้ำอีกครั้ง นำขึ้นใส่กระชอนพักไว้ 2. กุ้งแห้งล้างให้สะอาด ลวกน้ำพอนิ่มนำขึ้นจากน้ำพักไว้ 3. กุ้งแห้งใส่ครกตำให้ละเอียด ใส่กะปิ น้ำตาลปึก กระเทียม ตำให้เข้ากัน ใส่น้ำปลา น้ำสุก ลองนำตะลิงปลิงมาจิ้มน้ำยำ ชิมให้รสพอดี 4. นำตะลิงปริงใส่ชามน้ำยำ คลุกให้เข้ากัน ใส่พริกซอย หอมซอยคุลกให้เข้ากัน 5. โรยหน้าด้วยมะพร้าวคั่ว ตามด้วยหอมซอย พริกสดซอย รับประทานทันที ตะลิงปริงจะ กรอบ

เมี่ยงคำ

"เมี่ยงคำ" เป็นอาหารว่าง ที่คนภาคกลางนิยมทำรับประทาน โดยเฉพาะในช่วงที่ ใบชะพลูผลิดอกออกช่อ ในช่วงฤดูฝน ซึ่งหาใบชะพลูได้ไม่ยาก แต่ปัจจุบันทำทานกันได้ทั้งปี เพราะใบชะพลูมีขายทั่วใปตามตลาดสด มาดูกันครับว่าการทำ "เมี่ยงคำ" ต้องใช้เครื่องปรุงอะไรกันบ้าง เครื่องปรุงที่ต้องใช้ ประกอบด้วย ผมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายๆ 1.น้ำเมี่ยงคำ เครื่องปรุงที่ต้องใช้ : น้ำตาลปิ๊บ ,น้ำปลา,น้ำเปล่า ข่า,ตะไคร้,หอมแดง,กะปิ ขั้นตอนแรก โขลกข่า,ตะไคร้,หอมแดงและกะปิ 2 ชช. โขลกรวมกันให้ละเอียดเตรียมไว้ กุ้งแห้งป่น,ถั่วลิสงป่น, โขลกให้ละเอียด และมะพร้าวขูดคั่ว สำหรับใส่น้ำเมี่ยง *สำหรับมะพร้าวขูดคั่วหากไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ 2.เครื่องเคียงสำหรับรับประทานกับน้ำเมี่ยงคำ ใบชะพลู กุ้งแห้งจืด,ถั่วลิสงคั่ว,มะพร้าวหั่นคั่ว,พริกขี้หนู หอมแดง,ขิงสดและมะนาว หั่นหอมแดง,ขิงสด,มะนาว,พริกขี้หนูเป็นชิ้นเล็กๆ *สำหรับถั่วลิสงคั่วและมะพร้าวคั่ว หากไม่ขยันทำเอง หาซื้อได้ครับมีขาย ต่อไปเรามาปรุงน้ำเมี่ยงคำกันครับ อันดับแรก นำน้ำเปล่าใส่หม้อ 1 ถ้วย น้ำตาลปิ๊บ 3 ชต. เคี่ยวให้เดือดจนน้ำตาลละลาย จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้น้ำเชื่อมสะอาด กรองเสร็จแล้วจะได้น้ำเชื่อมสีสวย ใส นำไปตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นนำเครื่องที่โขลกไว้ใส่ลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนเหนียวกำลังดี คือไม่ใส่และไม่ข้นจนเกินไป คล้ายๆน้ำปลาหวานนั่นแหละครับ ระหว่างเคี่ยว ชิมรสดู หากไม่เค็มให้เติมน้ำปลาลงไปเพิ่ม เพราะกะปิที่เราใส่ลงไปมันก็จะทำให้เค็มอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับกะปิที่ใช้ด้วยครับหากเค็มแล้วก็ไม่ต้องใช้น้ำปลา หลังจากเคี่ยวจนสุกได้ที่แล้ว..ปิดไฟ นำกุ้งแห้งป่น,ถั่วลิสงป่น,มะพร้าวขูดคั่วใส่ลงไป คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันว่า เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ "น้ำเมี่ยงคำ" รสเข้มข้นสูตรดั่งเดิม ส่วนมากที่เราเห็นทำขาย มักจะไม่ใส่ กุ้งแห้งป่น,ถั่วลิสงป่น,มะพร้าวคั่ว น้ำเมี่ยงคำ จึงไม่เข้มข้นเหมือนที่ผมปรุงครับ น้ำเมี่ยงสูตรนี้ รับรองรสชาติเข้มข้น อร่อยดีจริงๆครับ ถึงน้ำถึงเนื้อ..ทุกคำที่รับประทาน เวลาจะทานก็จัดใส่ถาด ยกไปตั้งวงกลางบ้าน เรียกมานั่งทานกันหลายๆคน อร่อยเพลินกันไปเลยที่เดียวครับ วิธีรับประทาน นำใบชะพลู มาห่อๆ หยิบหอมแดง,มะนาว,ขิง,พริกขี้หนู ถั่วลิสง,กุ้งแห้ง วางลงไป ราดด้วยน้ำเมี่ยง โรยด้วยมะพร้าวคั่ว ห่อให้เป็นคำๆ เคล็ดลับเวลาจะทานเมี่ยง ก่อนนำเมี่ยงเข้าปาก ให้เงยหน้านิดๆ...รับรองอร่อยสนิททุกคำจริงๆครับ "เมี่ยงคำ" นอกจากจะทานเล่นเป็นอาหารแล้ว ยังมากมายไปด้วยสรรพคุณของสมุนไพร สารพัดชนิดที่เป็นเครื่องเคียง ช่วยปรับความสมดุลธาตุในร่างกาย รับประทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้ดีมากทีเดียวเชียวครับ

ปอเปี๊ยะสด

ปอเปี๊ยะสดอาหารว่างหรือเรียกว่าอาหารเรียกน้ำย่อยที่หารับประทานกันได้ไม่ยาก รสชาติเปรี้ยวหวานถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะเครื่องที่ใส่ในปอเปี๊ยะสดคัดสรรมาอย่างดีเรียกได้ว่าทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย วัตถุดิบ 1. แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ 2. ไข่ไก่ 3. เต้าหู้เหลืองแข็ง 4. กุนเชียง 5. ถั่วงอกลวก 6. แครอทขูดฝอย 7. ต้นหอม 8. แตงกวา 9. พริกชี้ฟ้า น้ำราดปอเปี๊ยะ 1. น้ำตาลทราย 2. น้ำตาลทรายแดง 3. ผงพะโล้ 4. น้ำมะขามเปียก 5. เกลือ 6. แป้งข้าวโพด วิธีทำ 1. หั่นเต้าหู้เหลืองออกเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมยาว 2. ต้มน้ำแล้วใส่ผงพะโล้ลงไปคนให้ละลาย ตามด้วยน้ำตาลทรายแดง แล้วใส่เต้าหู้ที่หั่นแล้วลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที 3. ตอกไข่ไก่ 2 ฟองแล้วตีไข่ให้ขึ้นฟู จากนั้นเทลงกระทะแล้วกลิ้งไข่ให้กระจายออกเป็นแผ่นบางๆ 4. นำแผ่นไข่บางๆที่ได้นำมาหั่นเป็นฝอย โดยใช้เทคนิคการม้วนแล้วจึงหั่น หรือตามความถนัด 5. นำเต้าหู้ที่ต้มได้ที่แล้วขึ้นมาพักไว้ 6. เริ่มทำน้ำราดปอเปียะโดยใช้น้ำที่ต้มใช้เต้าหู้เมื่อซักครู่ ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำตาลทรายแดง น้ำมะขามเปียก แล้วเคี่ยวให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นเติมเกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อตัดรสชาติ หวานและเปรี้ยว 8. เติมน้ำแป้งมันสำปะหรังลงไป เพื่อให้ซอสมีความข้นและเหนียว 9. หั่นแตงกวาออกเป็นแท่งเตรียมไว้ 10. ในขั้นตอนการห่อ ให้กางแผ่นแป้งออก จากนั้นวางแตงกวา กุนเชียง เต้าหู้ ไข่ฝอย และ ถั่วงอกลวก แครอท แล้วม้วนห่อแป้งให้มีลักษณะเป็นแท่ง 11. หั่นปอเปี๊ยะเป็นชิ้นพอดีคำ นำขึ้นใส่จาน แล้วราดด้วยน้ำซอสปอเปี๊ยะ (รสออกเปรี้ยวหวาน) โรยหน้าด้วยไข่ฝอย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง เสิร์ฟคู่กับต้นหอม เป็นอันเสร็จ.

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม

หากพูดถึงอาหารว่างกินเล่นหรืออาหารที่สามารถนำมากินเป็นกับข้าวก็ได้ หลายคนย่อมนึกไปถึงปอเปี๊ยะทอดด้วยเป็นแน่ แต่การกินปอเปี๊ยะทอดบ่อยๆ มันอาจจะทำให้น้ำหนักสาวๆ พุ่งปรี๊ดได้ เพราะฉะนั้น นานๆ ทีกินก็อาจจะไม่เป็นไรนัก แต่สำหรับสาวคนไหนที่รักการกินอาหารประเภทปอเปี๊ยะเพื่อสุขภาพ คงต้องนึกมาถึงปอเปี๊ยะสดเวียดนามแน่ๆ เลยจริงมั้ยคะ เพราะอุดมไปด้วยผักนานาชนิด มีโปรตีนและสารอาหารอื่นๆ อีกครบถ้วนตามที่ร่างกายจำเป็นได้รับ มากด้วยใยอาหารซึ่งเหมาะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพสุดๆ วันนี้เราจึงไม่รอช้า.. จะมาชวนคุณเข้าครับทำเมนูปอเปี๊ยะสดไปพร้อมกัน หากพร้อมแล้ว.. ตามมาดูกันเลยค่ะ ‘ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม’ เมนูสุขภาพทำง่ายสุดๆ วัตถุดิบและเครื่องปรุง สำหรับ 2 ที่ - แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม 5-7 แผ่น - เส้นหมี่ลวก 1/2 ถ้วยตวง - กุ้งลวก 12 ตัว - หมูสามชั้นสไลด์ต้มสุก 12 แผ่น - กระเทียมบดละเอียด 1 ช้อนชา - พริกชี้ฟ้าตำละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ - ผักกาดหอม 12 ชิ้น - ดอกกุยช่าย 6 ชิ้น - น้ำส้มชายชู 2 ช้อนชา - ฮอยซินซอส 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาล 1/2 ช้อนชา - เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ - ถั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ - ผักต่างๆ เช่น โหระพา ผักชี ต้นหอมและสะระแหน่ เป็นต้น ‘ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม’ เมนูสุขภาพทำง่ายสุดๆ ‘ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม’ เมนูสุขภาพทำง่ายสุดๆ วิธีทำน้ำจิ้ม 1.เริ่มจากการทำน้ำจิ้มกันก่อนนะคะ โดยนำกระทะเล็กๆ มาตั้งไฟแล้วนำกระเทียมผัดกับน้ำมันเล็กน้อยให้พอมีกลิ่นหอม จากนั้นเติมฮอยซินซอส น้ำตาลทราย เนยถั่วและน้ำเปล่าลงไปให้ละลายเข้ากัน ชิมรสและปรุงรสเพื่อเพิ่มความอร่อยมากขึ้นได้ตามชอบ เสร็จแล้วพักเอาไว้ในถ้วยน้ำจิ้มค่ะ 2.นำพริกชี้ฟ้ามาตำหรือปั่นให้ละเอียดผสมกันกับน้ำส้มสายชู เสร็จแล้วนำไปหยอดลงบนหน้าซอสที่เราพักเอาไว้เมื่อครู่นี้ แล้วโรยหน้าด้วยถั่วบด ‘ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม’ เมนูสุขภาพทำง่ายสุดๆ ‘ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม’ เมนูสุขภาพทำง่ายสุดๆ ขั้นตอนการห่อปอเปี๊ยะ 1.เอาแผ่นแป้งมาชุบน้ำให้ทั่วแบบเร็วๆ แล้วสะบัดน้ำออกเพื่อไม่ให้เปียกมากเกินไปจากนั้นวางแผ่กางเอาไว้เพื่อเตรียมวางไส้ค่ะ ในระหว่างนี้แผ่นแป้งจะค่อยๆ นิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ได้เอง 2.นำผักกาดหอมมาวางลงไปบนแผ่นแป้ง ตามด้วยส่วนผสมอื่นๆ ได้แก่ หมูสามชั้นตั้มและเส้นหมี่ 3.ม้วนแผ่น 1 รอบแล้วนำกุ้งลวกและดอกกุยช่ายมาวางต่อ 4.ม้วนแผ่นอีกครั้งพร้อมกับเก็บหัวท้ายให้เรียบร้อย ลักษณะจะเหมือนกับการห่อปอเปี๊ยะทอดนั่นเองหรือหากคุณจะตัดหัวท้ายออกให้สวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้นแบบการทำซูชิก็ได้เช่นกัน 5.เมื่อห่อเสร็จหมดแล้วก็นำมาวางเรียงใส่จาน จัดตกแต่งให้สวยงามด้วยผักเคียงต่างๆ เพิ่มเติม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มได้เลยค่ะ เชื่อว่าปอเปี๊ยะทอดหรือปอเปี๊ยะสดล้วนเป็นเมนูสุดโปรดของหลายคนไม่น้อย แถมวิธีทำก็ยังแสนง่ายอีกด้วย ว่าแล้วก็อย่าลืมหาเวลาว่างเข้าครัวทำกินกันบ้างนะคะสาวๆ

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

เมี่ยงปลาทู





"เมี่ยงปลาทู" น้ำจิ้มถั่วตัด
ส่วนผสม
- ปลาทูนึ่ง 2 ตัว...
- ขนมจีนหรือเส้นหมี่
- ถั่วตัด 1/2 แผ่น
- ถั่วคั่ว (ใช้ถั่วอะไรก็ได้ เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์)
- พริกขี้หนู
- กระเทียมไทย
- รากผักชี 2 ราก
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย
- ผักตามชอบ

วิธีทำ
1. นำปลาทูนึ่งไปทอดหรืออบ เตรียมไว้
2. นำเส้นหมีไปลวก เตรียมไว้
3. ทำน้ำจิ้ม โดยนำถั่ว รากผักชี พริก และกระเทียม โขลกรวมกัน (จะตำหรือจะปั่นก็ได้คะ) จากนั้นใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาวลงไป ปรุงรสตามชอบ (หรืออาจใส่น้ำต้มสุกด้วยก็ได้คะ) สุดท้ายใส่ถั่วคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
4. นำปลาทูจัดลงใส่จาน นำผักตามชอบวางลงไป ตามด้วยเส้นหมี่ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม


Cr. สูตรอาหาร http://www.tlcthai.com/…/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8…/

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน





"ก๊วยเตี๋ยวลุยสวน"
ขายก๊วยเตี๋ยวลุยสวน ทำเป็นรายได้เสริม งานเสริม งานพิเศษช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน!!พร้อมสูตรน้ำจิ้มรสเด็ด
น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวนสูตรสีเขียว
วัตถุดิบ
กระเทียม 60 กรัม...
รากผักชี 10 กรัม
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 10 กรัม
ใบสะระแหน่ ใบโหระพา 5 กรัม
น้ำส้มสายชู 120 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
เกลือป่น 20 กรัม
วิธีทำ
ปั่นรากผักชี กระเทียม พริกขี้หนู ใบสะระแหน่และใบโหระพาให้ละเอียด
ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายและเกลือป่นในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ คนจนน้ำตาลทราย เกลือ ละลายเข้ากัน ยกขึ้นทิ้งไว้ให้อุ่น ใส่ส่วนผสมในข้อ 1 คนให้เข้ากัน
นำไปแช่เย็นจะเพิ่มรสชาดความอร่อยได้ค่ะ

น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวนสูตรสีแดง
วัตถุดิบ
พริกชี้ฟ้าแดง 40 กรัม
กระเทียม 20 กรัม
น้ำส้มสายชู 180 กรัม
น้ำตาลทราย 135 กรัม
เกลือป่น 10 กรัม
แป้งมันสำปะหลัง 10 กรัม
แครอทขูดเป็นเส้นบาง 10 กรัม
วิธีทำ
นำพริกชี้ฟ้าแดงแกะเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปั่นกับกระเทียมให้ละเอียด
ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือป่นและแป้งมันละลายกับน้ำเปล่าเข้าด้วยกันในหม้อยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ จนมีลักษณะเป็นยางมะตูม ยกลงทิ้งไว้ให้อุ่น ใส่ส่วนผสมที่ปั่นและแครอทขูดเป็นเส้นบาง ๆ คนให้เข้ากัน
สูตรและวิธีการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
วัตถุดิบ
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 1 กก.
หมูบดสำหรับทำไส้ 500 กรัม
เห็ดหอม เห็ดหูหนู หั่นชิ้นเล็กๆอย่างละ 300 กรัม
เต้าหู้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 200 กรัม
ถั่วงอกเด็ดเอารากออก ลวกพอสุก 500 กรัม
ต้นหอมหั่นฝอย ผักชีเด็ดเป็นใบ โหระพาเด็ดเป็นใบ ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบอย่างละ 50 กรัม
แครอทหั่นหรือขูดเป็นเส้นยาวๆ ประมาณ 1 หัว
ผักกาดหอม 500 กรัม
กระเทียม 50 กรัม
ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส พริกไทยป่น น้ำตาล ใส่ตามต้องการ
วิธีทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม ใส่หมูบด เห็ดหอม เห็ดหูหนูผัดให้เข้ากันปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส พริกไทยป่น น้ำตาลชิมรสให้ออกรสเค็มเล็กน้อย จากนั้นตักขึ้นใส่ภาชนะพักไว้ให้เย็น
2.นึ่งเส้นก๋วยเตี๋ยวพอร้อน จากนั้นพักไว้ให้เย็น
3.วางเส้นใหญ่ลงบนเขียงแล้วนำผักกาดหอม ถั่วงอก ใบโหระพา สะระแหน่ แครอทและส่วนผสมที่ผัดไว้วางบนแผ่นก๋วยเตี๋ยวม้วนห่อให้แน่น เวลารับประทานหั่นพอคำทานคู่กับน้ำจิ้ม
หมายเหตุ : ท่านสามารถเปลี่ยนไส้ได้ตามใจชอบนะคะ เช่น ไส้หมูยอ ปลาทู เต้าหู้ ไส้กรอก แฮม ไก่ต้ม ทูน่า เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
www.datacatalog.org
www.bloggang.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก
เครดิตภาพ http://www.สถาบันสอนอาชีพชี้ช่องรวย.com/tr… สถาบันสอนอาชีพ
เครดิตภาพ "คุณทิพย์"ต้นตำรับ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx…
เครดิตภาพ กศน ต.บ้าแหง http://www.nfengao.org/tb108/showac5.php?no_pp=765

เผือกทอด ข้าวโพดทอด ไชเท้าทอดและเต้าหู้ทอด...สูตรเด็ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เผือกทอด ข้าวโพดทอด ไชเท้าทอดและเต้าหู้ทอด...สูตรเด็ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แบ่งปันสูตรเผือกทอด ข้าวโพดทอด ไชเท้าทอดและเต้าหู้ทอด ทำเป็นรายได้เสริม...ถ้าใครทำทานเองภายในครอบครัวเล็กๆ ก็ปรับสูตรอัตราส่วนผสม ลดลงมานะคะ
วัตถุดิบผักทอด (เผือก ไชเท้า ฟักทอง เห็ด ข้าวโพด มันเทศ แครอท เต้าหู้)
1. แป้งหมี่ 1 กก.
2. ผงฟู 1 ชต.
3. เกลือ 1 ชช.
4. น้ำเปล่า 2 ถ้วย
วิธีทำผักทอด
1. นำวัตถุดิบทั้งหมดมาผสมกัน ให้มีลักษณะข้นหนืด
2. ใส่พืชผักที่เราชอบ 1/2 กก.หรือดัดแปลงเอาตามชอบก็ได้คะ ตั้งกะทะให้น้ำมันร้อนจัดๆ แล้วตักผักเป็นก้อนๆ ใส่ลงไปทอด 3-5 ผักทอดก็สุกพร้อมเสิร์ฟแล้วคะ
วัตถุดิบน้ำจิ้มของทอด
1. น้ำตาลปี๊บ 1 กก.
2. น้ำเปล่า 1 ลิตร
3. น้ำมะขามเปียก 2 ถต.
4. เกลือ 2 ชต.
วิธีทำน้ำจิ้มผักทอด
1. นำวัตถุดิบทั้งหมดใส่หม้อแล้วเคี่ยวให้ใส ชิมรสชาดให้ได้ 3 รส เวลาจะรับประทานให้ ใส่ถั่วป่น พริกป่น และโรยหน้าด้วยผักชี

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
  1. www.oknation.net
  2. www.board.varietyetc.com

ข้าวต้มปลากะพง


ข้าวต้มปลากะพง
ข้าวต้ม เมนูง่ายๆ ย่อยง่าย ที่สามารถนำไปประยุกต์เป็นข้าวต้มได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวต้มหมู ไก่ กุ้ง รวมถึงข้าวต้มปลา ซึ่งมื้อนี้ "กุ๊กเล็ก" มี"ข้าวต้มปลากะพง" ร้อนๆ ที่ไม่ว่าจะกินมื้อเช้าหรือมื้อดึก (หรือใครจะกินมื้อเที่ยงก็ได้) ก็ให้รสกลมกล่อม อร่อยได้ทั้งนั้น
เครื่องปรุง (สำหรับ 2 ที่)
1. ข้าวสาร 1/2 ถ้วย
2. เนื้อปลากะพง 2 ขีด
3. น้ำซุปไก่หรือน้ำซุปกระดูกปลา (หรือจะใช้ซุปก้อนก็ได้) 3 ถ้วย
4. รากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด ตำผสมกัน 1 ช้อนโต๊ะ
5. ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
6. ข่าเผาหรือคั่วโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
7. ผักชี-ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
8. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
10. ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
11. เกลือ 1/2 ช้อนชา
12. พริกไทยป่นไว้โรยหน้าข้าวต้มปลา
วิธีทำ เริ่มจากต้มข้าวต้มก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งใครจะใช้วิธีนำข้าวสวยมาต้มเลยก็จะทำได้ง่าย แต่ถ้าเลือกใช้ข้าวสารมาต้มก็จะได้กลิ่นหอมของข้าวและได้ข้าวเป็นเม็ดสวยกว่า
เมื่อต้มข้าวจนสุกแล้วก็พักไว้ก่อน หันมาทำส่วนผสมสำคัญของข้าวต้มปลากันบ้าง นำน้ำซุปไก่หรือน้ำซุปกระดูกปลามาต้ม
สำหรับใครที่มีเวลาน้อยไม่มีเวลาต้มน้ำซุปก็สามารถใช้ซุปก้อนแทนได้ ใส่เกลือลงไปสักหนึ่งหยิบมือ แล้วใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยที่ตำเอาไว้ลงไปต้มในน้ำซุปด้วย
พอน้ำเดือดแล้วหยิบขึ้นฉ่ายมาหนึ่งต้น หั่นเป็นท่อนๆแล้วใส่ลงไปในน้ำซุป รวมทั้งข่าเผาที่โขลกละเอียดแล้วใส่ลงไปพร้อมกัน เพื่อเวลาที่นำปลาลงไปต้มแล้วน้ำซุปจะไม่คาว และยังช่วยเพิ่มกลิ่นให้น่ากินยิ่งขึ้น จากน้ำนำปลากะพงลงไปในขณะที่น้ำกำลังเดือด อย่าคนจนกว่าปลาจะเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและซีอิ้วขาว ชิมรสให้พอดีก็ปิดไฟยกลงได้ แต่อย่าต้มนานเกินไปจนเนื้อปลาแข็งหมดอร่อยล่ะ
เวลาจะเสิร์ฟตักข้าวต้มเอาแต่เนื้อข้าวใส่ชาม แล้วตักเนื้อปลาและน้ำซุปที่ต้มไว้ราดลงไป เอาผักชีต้นหอมและขึ้นฉ่ายที่เหลือหั่นเป็นท่อนสั้นๆ โรยหน้า พร้อมด้วยกระเทียมเจียวหอมๆราดตาม แล้วโรยพริกไทยปิดท้าย ได้ซดน้ำซุปร้อนๆกับเนื้อปลานิ่มๆผสมกับข้าวต้ม อร่อยอย่าบอกใครเชียว